Category Archives: เอาของชาวบ้านมา

เอาของชาวบ้านมา

ใครก็ตามที่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ เขาคนนั้นก็สามารถบริหารประเทศได้

Number of View: 6053

Only one who can govern water. He can govern a country. One who wants to govern his country should govern water first.

“ใครก็ตามที่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ เขาคนนั้นก็สามารถบริหารประเทศได้ ใครก็ตามที่ต้องการบริหารประเทศของเขา ควรบริหารจัดการน้ำให้ได้ก่อนอื่น”

“เล่าจื๊อ”

ที่มา bankgokbiznews.com

เอาของชาวบ้านมา

google สำนักงานประเทศไทย เปิดแล้ว!!

Number of View: 3656

google สำนักงานประเทศไทย

ภาพโดย pinnynoy

ประวัติศาสตร์ เอาของชาวบ้านมา

คอนเสิร์ต 25 ปี ไมโคร “ร็อค เล็ก เล็ก RETURNs”

Number of View: 11096

poster

จากจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์วัยรุ่นชั้นดี อย่าง “ วัยระเริง ”� ที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักชื่อของ “ วงไมโคร ” และต่อมากับการออกอัลบั้มแรกในชีวิต “ ร็อค เล็ก เล็ก ” ที่ถือได้ว่าก้าวย่างแห่งความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขาอย่างมากมาย และต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

ไมโคร ถือได้ว่าเป็นวงดนตรีป๊อปร็อคของเมืองไทยที่โดดเด่นที่สุดแห่งยุค ด้วยบทเพลงที่กลายเป็นต้นแบบของเพลงที่โดนใจวัยรุ่นมากที่สุด� รวมถึงเอกลักษณ์ของนักร้องนำ อย่าง หนุ่ย อำพล� เจ้าของวลีสุดฮิต อย่าง “ ชูมือขวาหน่อย ” และท่าทางการชูมือขวา ที่สร้างตำนานให้กับ ไมโคร อย่างยิ่งใหญ่

ทุกบทเพลงจากไมโคร คือความผูกพัน ที่หลายคนได้ซึมซับผ่านประสบการณ์ของวันและเวลา มาอย่างยาวนาน� ไม่ว่าจะเป็น เพลง อยากจะบอกใครสักคน� ที่เคยทำให้คนฟัง ต้องร้องตามออกมาด้วยความสะใจ� หรือเพลง อย่าดีกว่า� ที่ฟังกี่ครั้งก็ต้องนึกถึงความรู้สึกเจ็บช้ำเก่า ๆ อยู่เสมอ

แม้วันเวลาจะผ่านมากว่า 25 ปี แต่ทุกบทเพลงจากไมโคร ยังคงอยู่ และยังคงทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราว และความรู้สึกในช่วงเวลานั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี� และทุกครั้งที่ได้ยิน เราเชื่อว่า ภาพแห่งความทรงจำ ภาพแห่งมิตรภาพและความเป็นเพื่อน ของพวกเขาทั้ง 6 คน ยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจเช่นกัน

และ วันนี้ พวกเขาพร้อมแล้วที่จะกลับมาต่อยอดความรู้สึกที่อาจจะเลือนหายไป ให้กลับมาใหม่อีกครั้ง ด้วย ความมันส์ ความสะใจ และความประทับใจ� เหมือนเมื่อวันแรกที่เราได้รู้จัก� ได้ร่วมกันชูมือขวา วันที่เราได้ร่วมเฮ� และกอดคอกันร้องเพลงไปกับพวกเขา

พบการกลับมาอีกครั้งของความยิ่งใหญ่ …ที่มากกว่าครั้งไหน ๆ
และการรวมพลังมือขวา…ที่สุดสนั่น และมันส์สะใจ…ยิ่งกว่าทุก ๆ ครั้ง

จองบัตรได้ที่นี่

ชมภาพบรรยากาศได้ที่นี่ครับ

ศิลปะ เอาของชาวบ้านมา

พรปีใหม่

Number of View: 2532

เอาของชาวบ้านมา

โทรโข่ง

Number of View: 3138

ในวันที่เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการของ Open Online ที่ผมไปเจอ
เข้าในบล๊อค

ทางเจ้าของเว็บเขาไปไม่อยากให้กระโตกกระตาก ผมก็เลยทำตัวเป็น
คนอ่านบล๊อคที่ดีก็เลยไม่ได้แจ้งข่าวกับใคร

มาถึงวันนี้ Open Online เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ใครที่คิดถึง
Open แล้วเป็นแนวฮาร์ดคอร์ด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
ต่างๆแล้ว ก็อย่าลืมไปแวะเวียนอ่านบ่อยๆ นะครับ

เชิญไปรับอาหารเสริมให้กับสมองกันได้เลยครับ

เอาของชาวบ้านมา

มองท่ามกลางความสับสน (หรือเปล่า)

Number of View: 2327

เป็นมุมมองของสองมุม มุมนึงเป็นคนหนุ่ม ที่อธิบายให้เห็น
ว่าในความสับสนของหลายๆคน มันมีสาระอะไรซ่อนอยู่
เป็นมุมของ “คนชายขอบ”

อีกมุมนึงเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลทางเลือก ท่านเป็น
นักคิด นักเขียน นักวิจารณ์บ้านเมือง และสังคม
เป็นความคิดที่คม แตกต่าง ตรงไปตรงมา เป็นความคิด
เกี่ยวกับบ้านเมืองในอาการสับสนวุ่นวาย เช่นกัน
เป็นบทสัมภาษณ์อาจารย์ สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ จาก นสพ.กรุงเทพฯ

เอาของชาวบ้านมา

อ่านเหอะ….มันคุ้ม

Number of View: 2673

1 . บทเรียนสำคัญบทแรก
– คนทำความสะอาด
เมื่อครั้งที่ฉันเข้าเรียนในวิทยาลัยได้สองเดือน
อาจารย์ให้พวกเราทำแบบทดสอบอันหนึ่ง
ฉันเป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียน
จึงตอบคำถามได้อย่างสบาย
จนมาถึงคำถามสุดท้าย
“สุภาพสตรีที่เป็นคนทำความสะอาดโรงเรียนชื่อว่าอะไร?”
ต้องเป็นเรื่องตลกอะไรสักอย่างแน่
ฉันเคยเจอคนทำความสะอาดหลายครั้ง
เธอเป็นคนตัวสูง ผมดำ และอายุกว่า 50
แต่ฉันจะรู้ชื่อเธอได้อย่างไร?
ฉันส่งกระดาษคำตอบ
โดยไม่ได้ตอบข้อสุดท้าย
ก่อนหมดคาบเรียน
นักศึกษาคนหนึ่งถามว่า
คำถามข้อสุดท้ายจะถูกคิดรวมในคะแนนของผลการเรียนด้วยหรือไม่
“แน่นอน” อาจารย์ตอบ
“เมื่อเธอเข้าทำงาน
เธอจะต้องพบกับคนมากมาย
ซึ่งทุกคนมีความสำคัญพอ
ที่สมควรจะได้รับความสนใจและเอาใจใส่
แม้ว่าพวกเธอจะทำได้แค่เพียงยิ้มให้และกล่าวสวัสดีก็ตาม”
ฉันไม่เคยลืมบทเรียนนั้นเลย
และได้รู้ว่าชื่อของสตรีคนนั้นคือ
โดโรธี

2. บทเรียนสำคัญที่สอง –
รับคนกลางฝน
คืนหนึ่ง เวลา 23:30 น.
สตรีสูงอายุเชื้อสายแอฟริกันคนหนึ่ง
ยืนอยู่ริมทางหลวง
สาย อลาบามา
พยายามต้านฝนที่ตกหนักอยู่
รถของเธอเสีย
และเธอต้องการเดินทางต่อไปอย่างมาก
แม้จะเปียกโชก
เธอตัดสินใจโบกรถคันที่วิ่งผ่านมา
ชายหนุ่มผิวขาวผู้หนึ่งหยุดรถเพื่อช่วยเหลือเธอ
ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในยุคที่มีความขัดแย้ง
เรื่องการเหยียดผิวอย่างทศวรรษที่ 60
ชายหนุ่มช่วยเหลือให้เธอได้รับความปลอดภัยและส่งเธอขึ้นรถแท๊กซี่
แม้ว่าเธอจะเร่งรีบมาก แต่ก็ขอบคุณเขา
และจดที่อยู่ของเขาไปด้วย
เจ็ดวันหลังจากนั้น
ก็มีชายคนหนึ่งมาเคาะประตูบ้านของเขา
ด้วยความประหลาดใจ
โทรทัศน์สีจอยักษ์เครื่องหนึ่งถูกนำมาส่งยังบ้านของเขาและมีข้อความแนบมาด้วย
ใจความว่า:
“ขอบพระคุณมากสำหรับความช่วยเหลือบนทางหลวงในคืนนั้น
ฝนไม่ได้ชะแต่เพียงเสื้อผ้าของฉันเท่านั้น
แต่ชะเอากำลังใจของฉันไปด้วย
แต่เมื่อคุณผ่านมา
เป็นเพราะคุณ
ฉันจึงสามารถไปทันดูใจสามีที่กำลังจะเสียชีวิต
ทันเวลาก่อนที่เขาจะสิ้นลมพอดี
ขอพระเจ้าอวยพรคุณ
สำหรับการช่วยฉัน
และการช่วยเหลือผู้อื่น
อย่างไม่เห็นแก่ตัวของคุณ”
ด้วยความจริงใจ นาง
แนท คิงโคล

3. บทเรียนสำคัญที่สาม –
ระลึกถึงคนที่ให้บริการเสมอ
ในสมัยที่ไอศครีมซันเดยังมีราคาถูกอยู่มาก
เด็กชายอายุสิบขวบคนหนึ่งเข้าไปในคอฟฟี่ชอปของโรงแรมแห่งหนึ่งแล้วนั่งที่โต๊ะ
เมื่อพนักงานเสริฟวางแก้วน้ำลงตรงหน้า
เด็กชายก็ถามว่า
“ไอศครีมซันเดราคาเท่าใหร่ครับ?”
“ห้าสิบเซ็นต์”
พนักงานเสริฟสาวตอบ
แล้วเด็กชายก็ดึงมือออกจากกระเป๋า
แล้วก็นับเ หรียญในมือ
“งั้นไอศครีมเปล่าๆล่ะครับราคาเท่าใหร่?”
เด็กชายถามอีก
ตอนนี้เริ่มมีคนรอโต๊ะมากขึ้นและพนักงานเสริฟสาวก็เริ่มจะหมดความอดทน
“สามสิบห้าเซ็นต์” เธอตอบห้วนๆ
เด็กชายนับเหรียญในมืออีกครั้ง
“ผมขอไอศครีมเปล่าครับ” เด็กชายบอก
แล้วพนักงานเสริฟสาวก็เอา
ไอศครีมมาให้
เอาใบเสร็จมาให้แล้วก็เดินหนีไป
เด็กชายทานไอศครีมหมดแล้ว
ก็จ่ายเงินแล้วก็จากไปเมื่อพนักงานเสริฟเดินกลับมา
เธอก็เริ่มร้องไห้เมื่อเธอเช็ดโต๊ะบนโต๊ะนั้น
มีเหรียญนิกเกิลราคาห้าเซ็นต์สองเหรียญและเหรียญเพนนีอีกห้าเหรียญวางอยู่
อย่างบรรจง
ข้างจานเปล่านั้น
เห็นไหมว่า
เด็กชายไม่ทานไอศครีมซันเด
เพราะเขาต้องเหลือเงินไว้ทิปพนักงานเสริฟสาวคนนั้น

4. บทเรียนสำคัญที่สี่ –
สิ่งที่กีดขวางทางของเรา
ในยุคโบราณ
มีหินผาตกลงมาขวางถนนเส้นหนึ่ง
เมื่อพระราชามาพบเข้าจึงซ่อนพระองค์อยู่
เพื่อคอยดูว่าจะมีใครมาเอาหินใหญ่ก้อนนั้นออกไปจากทาง
เมื่อเสนาบดีในราชสำนักของพระองค์และพ่อ
ค้าผู้ร่ำรวยผ่านมา
ก็เพียงแต่อ้อมหินผาก้อนใหญ่นั้นไป
พวกเขากล่าวตำหนิพระราชาต่างๆนานา
ที่พระองค์ไม่ใส่พระทัยที่จะดูแลทางนั้นให้ดี
แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรที่จะเอาหินนั้นออกไปให้พ้นทาง
จนกระทั่งชาวบ้านคนหนึ่งแบกผักกองใหญ่ผ่านมา
เมื่อเขาเดินมาถึงหินผานั้น
เขาก็วางสัมภาระลง
แล้วพยายามที่จะขยับก้อนหินนั้นให้พ้นทาง
หลังจากทั้งผลักทั้งดึงหินก้อนนั้น
ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ
เมื่อเขาหยิบสัมภาระของเขาขึ้นมา
เขาก็เห็นถุงเงินวางอยู่ตรงจุดที่ก้อนหินผาเคยอยู่
ในถุงนั้นมีเหรียญทองและจดหมายจากพระราชา
เขียนไว้ว่า
ทองในถุงนั้นเป็นของผู้ที่เอาหินผาออกไปจากถนน
ชาวบ้านคนนั้นได้รู้สิ่งที่เราไม่เคยได้รู้
ทุกๆอุปสรรคที่กีดขวางทางนั้น
จะมอบโอกาสที่เราจะดีขึ้น ให้กับเรา

5. บทเรียนสำคัญที่ห้า
– ให้เมื่อมีค่า
หลายปีมาแล้ว
เมื่อฉันไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ฉันได้รู้จักกับเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ ลิซ
ซึ่งป่วยเป็นโรคร้ายที่มีน้อยคนที่จะเป็น
โอกาสที่เธอจะหายจากโรคนี้ได้คือต้องทำการถ่ายเลือดจากน้องชายอายุห้าขวบของเธอ
ผู้ซึ่งรอดจากโรคร้ายนี้ได้อย่างปาฏิหาริย์
จึงทำให้เขาร่างกายเขาสร้างภูมิคุ้มกันโรคร้ายนี้ขึ้นมา
หมออธิบายสถานการณ์ให้น้องชายของเธอฟัง
และถามเด็กชายว่า
เขาต้องการจะให้เลือดของเขาแก่พี่สาวหรือไม่
ฉันเห็นเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสูดหายใจลึกแล้วพูดว่า
“ได้ครับ
หากมันช่วยพี่สาวผมได้”
เมื่อทำการถ่ายเลือด
เขานอนยิ้มอยู่ที่เตียงข้างๆพี่สาว
ในขณะที่เราเริ่มจะเห็นสีสันคืนสู้แก้มของเธอ
หน้าของเด็กชายก็เริ่มซีดและรอยยิ้มก็จางหายไป
เด็กชายมองไปที่หมอและถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“ผมกำลังจะตายใช่ไหม?”
ด้วยความเป็นเด็ก
เขาเข้าใจหมอผิดไป
เด็กชายคิดว่าเขาต้องให้เลือดทั้งหมดของเขาให้แก่พี่สาวเพื่อช่วยชีวิตเธอ