เทคโนโลยี Web และ Mobile App

Number of View: 7005

ถ้ามองถึงเทคโนโลยีหลักที่เป็นส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้หรือ User Interface ที่เป็นแกนของอินเตอร์เน็ตในตอนนี้พอจะแยกได้ออกเป็น 2 สายที่แยกออกจากกันแต่ก็อยู่บนเทคโนโลยีคล้ายๆ กัน นั่นคือเทคโนโลยีแบบเว็บกับเทคโนโลยีที่เป็น Application หรือ Mobile Application

line-facebook-app

ถ้าจะว่ากันจริงๆ เทคโนโลยีทั้ง 2 อย่างนั้นแทบจะเป็นตัวเดียวกันเลยด้วยซ้ำ แตกต่างๆ กันแค่การเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ยิ่งในตอนนี้หลายๆ ค่าย หลายๆ ฝ่ายที่เป็นผู้ควบคุมเทคโนโลยีหรือเป็นผู้นำเสนอมาตรฐานกลางเทคโนโลยียิ่งพยายามให้ Mobile Application ต่างๆ มีมาตรฐานเดียวกันไม่ว่าจะไปอยู่บนระบบปฏิบัติการใด หรือทำให้เกิดการส่งเสริมเทคโลยีแบบเปิดหรือ Open ขึ้น

สุดท้ายสิ่งที่นำไปสู่เทคโนโลยีแบบเปิดของ Mobile App ที่นักพัฒนาทุกคนรู้จักก็เป็นเทคโนโลยีเว็บแบบเดิมที่มีการพัฒนาต่อเนื่องมานั่นเอง นั่นก็คือ HTML, CSS, Javascripts, XML และอื่นๆ ซึ่งถึงแม้ตอนนี้จะใช้คนละภาษาในการพัฒนาแต่มองเห็นจุดหมายปลายทางร่วมกันคือเทคโนโลยีแบบเปิด

 

Social Network อย่าง Facebook ยักษ์ใหญ่นั้นก้าวแรกนั้นก็มาจากเทคโนโลยีที่เป็นเว็บแล้วก็เพิ่มช่องทางต่อมาภายหลังเป็น Mobile Application ซึ่งก็น่าจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าผู้ใช้ที่มาจาก Mobile Application นั้นมากกว่าแน่นอนในปัจจุบัน Facebook มีหัวหอกในการแย่งชิงฐานผู้ใช้จากระบบ Social Network แต่ก็ต้องเพิ่มฐานผู้ใช้ด้วยการแตกผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้นั่นก็คือ Mobile Messaging หรือ Instant Messaging นั่นเอง ซึ่งในช่วงแรกตัว Messenger ของ Facebook นั้นจะเป็น App ที่เป็นตัวเดียวกันกับ Facebook เลย แต่ในสุดท้ายทาง Facebook ก็ได้แยกตัว Messenger ออกมาจาก App เดิมอย่างชัดเจน แต่ก็ใช้ฐานสมาชิกเดียวกันได้ ในปัจจุบันฐานผู้ใช้ที่เป็นสมาชิกและฐานผู้ใช้ที่ใช้งานจริงน่าจะเกือบพันล้านแล้วน่าจะได้

 

ฝั่งทางผู้ให้บริการ Mobile Messaging ในทางเอเชียอย่าง Line Application นั้นเริ่มต้นการสร้างฐานผู้ใช้จากเทคโนโลยีที่เป็น Mobile Application โดยตรง ไม่ได้มาจากเทคโนโลยีบนเว็บตรงๆ เหมือน Facebook นั่นคือความแตกต่างระหว่างสองที่นี้

 

LINE เติบโตและไปได้ดีในการให้บริการผ่าน Mobile Application ในฝั่งเอเชียและก็คาดว่ากำลังรุกคืบไปทุกๆ ประเทศในโลก ซึ่งการที่ประสบความสำเร็จได้อย่างมากในเอเชียคาดว่าน่าจะมาจากการที่บริษัทแม่เองของ LINE คือ Naver (เคยพูดถึง Naver) เกาหลีเองนั้นก็มีประสบการณ์ในการทำเว็บที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเกาหลี นั่นย่อมจะเข้าใจจริตหรือเข้าใจความต้องการของคนเอเชียได้ดี จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ LINE Application ประสบความสำเร็จอย่างดี

 

ด้วยการที่ต้องการสร้างฐานผู้ใช้ให้กว้างและเพิ่มขึ้น LINE เองก็ได้พยายามซื้อบริษัท Startup โดยเฉพาะในเอเชียจำนวนมากเพื่อทำการสร้าง Mobile Application ต่างๆ ขึ้นมามากมาย และแน่นอนมันคงไม่ใช่แค่การสร้างฐานผู้ใช้เพราะ Mobile Application หลายๆ ตัวของ LINE เองที่ไม่ใช่ Instant Messaging ก็ประสบความสำเร็จพอสมควร

สุดท้ายแล้ว LINE คงไม่ปล่อยให้คู่แข่งต่างๆ กวาดผู้ใช้ไปได้ง่ายๆ อย่างหน้าตาเฉยโดยเฉพาะ Facebook นั่นก็คือสมรภูมิของ Social Network โดยทาง LINE ได้มีการพัฒนา ตัว Mobile Messaging ดั้งเดิมที่มีฐานผู้ใช้จำนวนมากอยู่แล้วให้มีความสามารถในการเป็นระบบ Social Network ได้แทบจะเรียกได้ว่าเกือบจะเหมือนกันกับ Facebook เต็มแก่แล้ว

 

และก็จะเห็นว่าทั้ง 2 บริษัทมีวิธีการขยายฐานผู้ใช้ไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ของตนเองกลับกันอย่างชัดเจน และก็ดูท่าทางจะขยายไปได้สำเร็จเช่นกัน 2 ที่

 

ไม่ว่าจะเป็น Facebook ที่เริ่มต้นมาจากระบบบนเว็บแล้วก็น่าจะยึดฐานที่มั่นหลักเป็น Mobile App แล้ว ส่วน LINE ถึงแม้จะเริ่มต้นจากเทคโนโลยีที่เป็น Mobile App แล้วก็ยังคงมุ่งมั่นในแนวทางที่เป็น Mobile App ต่อไปอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรคือทั้ง Mobile App หรือ Web Application ต่างก็อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่ประกอบร่วมกันจากเทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นอินเตอร์เน็ตหรือเว็บนั่นเอง

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Time limit is exhausted. Please reload CAPTCHA.