หลายปีก่อนสมัยที่ดื่มเหล้าบ่อยมาก โดยเฉพาะกับจุฬ หลายๆครั้งที่ดื่ม ความคิด
ไอเดีย แปลกๆจะหลั่งไหลออกมาจากปาก ซึ่งความจริงแล้วมันก็อยู่ในสมองนั้นแหละ
แต่มันเกือบจะเป็นจิตใต้สำนึก แต่ยังไม่ถึง มันยังเป็นความคิดที่ยังเรียกมาใช้ เรียกมาพูด
ได้ง่ายกว่า จำได้ว่าพูดเรื่องอยากสร้างองค์กรที่ให้มาช่วยกอบกู้ร้านโชว์ห่วย ในประเทศไทย
คล้ายๆกับ ความคิดของท่านรัฐมนตรีเนวิน ที่สร้างบริษัทขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือร้านโชว์ห่วย
ที่กำลังตกอยู่ในสถานะลำบาก จากบริษัทค้าปลีกแนวใหม่ข้ามชาติ ที่เข้ามาในประเทศไทย
เมื่อหลายปีก่อน และยังรกหน้าด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ทางการค้า อย่างไม่หยุดยั้ง และยิ่งร้าน
สะดวกซื้อแล้วด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอันตรายกับร้านโชว์ห่วยของไทยอย่างยิ่ง ถึงขณะนี้ คาดว่า
ได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของประเทศไทยเกือบทุกตารางกิโลเมตรแล้ว
ร้านที่ผมคิดไว้นั้นต่างกันกับของท่านรัฐมนตรีที่ จะเป็นร้านที่มีลักษณะดำเนินการเหมือน
Open Source นั่นคือ เป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร แต่จะเป็นการระดมสมองจากผู้ที่มีความรู้
ด้านธุรกิจในทุกวงการ ที่ต้องการอุทิศตัว เพื่อโชว์ห่วย และองค์กรนี้ต้องการเงินเพื่อดำเนินการ
จากผู้ที่มีใจบุญ และ อยากช่วยเหลือประเทศชาติ
นักธุรกิจที่จะมาร่วมงานนั้นจะใช้เวลาว่างในการมาทำงานก็ได้ แต่องค์กรจะให้ผลตอบแทน
แค่ค่าเสียเวลา ค่าเดินทางอะไรประมาณนี้ แล้วก็รูปแบบขององค์กรก็จะมีลักษณะที่เป็นบริษัท
ที่เป็นของมหาชน มีการทำการวิจัย พัฒนาความรู้ ทางด้านการพัฒนาร้านโชว์ห่วย เพื่อที่จะ
ทำอย่างไรให้ร้านโชว์ห่วยอยู่รอดได้ และอยู่รอดได้อย่างสามารถแข่งขัน กับร้านสะดวกซื้อ
และร้านค้าปลีกข้ามชาติได้ด้วย
สิ่งที่ร้านโชว์ห่วยเสียเปรียบร้านค้าปลีกยักษ์ และร้านสะดวกซื้อคือ เรื่องของราคา
และความสะดวก สบาย และเรื่องที่แย่มากๆของร้านโชว์ห่วยก็คือ การเปิดปิดของร้านตามใจฉัน
หรือเปิดปิดไม่ตรงเวลานั่นเอง
สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำการวิจัย และพัฒนา หาแนวทางเพื่อสร้างเป็นร้านโชว์
ห่วยมาตรฐาน มีแนวทางการดำเนินกิจการตามมาตรฐานจากองค์กรกลาง ของร้านโชว์ห่วยนี้
โดยร้านโชว์ห่วยที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่มากเท่าไหร่ เช่นการปรับปรุงภาพ
ลักษณ์และ การซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม และ ไม่เสียค่าวิจัยและพัฒนา และค่าขนส่งสินค้า แถม
ประหยัดต้นทุนด้านการจัดการร้านต่างๆด้วย
แต่ถ้าร้านไหนทำผิดกฏขององค์กรกลางที่ดูแล ก็จะปรับออกเพราะถือว่าไม่มีวินัย
เช่น เปิดปิดไม่ตรงเวลา มาตรฐานของร้านต่ำจากที่กำหนดไว้ ซึ่งจะมีการตรวจสอบมาตรฐาน
ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้เป็นประจำ
การส่งสินค้าจะทำโดยระบบการขนส่งสินค้าที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาธุรกิจของ องค์กร
เพื่อให้ต้นทุนถูกลง จากการที่สามารถต่อรองกับผู้ผลิต และ ส่งสินค้าให้หลายร้าน
องค์กรที่จัดตั้งขึ้นมาสามารถที่จะเลี้ยงดูตัวเองให้อยู่รอดได้จาก กำไรบางส่วนที่เกิดจาก
การทำตัวเป็นตัวกลางในการกระจายสินค้า หรือ การเป็นผู้ค้าส่ง หลังจากหักค่าจัดการองค์กร
ในบางส่วน
องค์กรจะมีการเปลี่ยนแปลงและเลือกตั้งประธาน และกรรมการตามวาระ เพื่อให้ได้ผู้ที่เก่ง
และมีความรู้เพื่อมาพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ และมีการจ้างลูกจ้างประจำเพื่อให้องค์กร
ดำเนินการไปได้ เช่น พนักงานวิจัย พนักงานบัญชี พนักงานขนส่งและอื่นๆ
องค์กรจะไม่เป็นเครื่องมือของการเมือง หรือไม่รับนโยบายหรือคำสั่งจากการเมือง หรือเป็น
อิสระจากการเมือง 100% แต่ยังจะรับเงินบริจาคหรือเงินช่วยเหลือจากการเมืองหรือ รัฐบาล
หน่วยงานที่ท่านรัฐมนตรีตั้งขึ้นไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว แต่คิดว่าไม่เหมือนกับร้านของผมแน่นอน
เพราะ แนวคิดนี้ผมคิดมาเมื่อ 2-3 ก่อน โดยมีนายจุฬเป็นพยานได้ ฮ่าๆ ว่าผมไม่ได้ลอกเลียนใคร
และตอนนี้ก็ได้ข่าว หน่วนงานที่ท่านทำนั้นได้ข่าวว่า ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ และจะล้มเลิก
หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
แต่ก็อีกนั้นแหละครับความคิดผมมันเป็นได้ก็แค่ความคิด คงไม่มีโอกาสได้ทำจริงๆ เพราะ
ไม่มีทุน ไม่มีอำนาจอะไร ถ้าใครจะนำไปปฏิบัติจริงผมก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ เพราะถึงอย่างไร
คนที่ได้ประโยชน์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ประเทศชาติของเรานั่นแหละ ที่ไม่ต้องให้ต่างชาติมากอบโกย
เงินออกไปจากประเทศเรา