เมืองใหม่ไทยแลนด์

Number of View: 1667

สถานที่ราชการหลายแห่งในประเทศไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
เข้าใจว่าหลายๆแห่งได้รับการบริจาคที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
จากเจ้าขุนมูลนายเดิมหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ตามความ
คิดของผมเองคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น อย่างที่ชัวร์ๆเลยก็คือวังบาง
ขุนพรหมที่เป็นที่ตั้งของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ก็มีอีกหลายๆ
ที่ที่คงได้จากการบริจาค เช่นวังจันทรเกษมที่เป็นที่ตั้งของ
กระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ยังมีบ้านพิษณุโลกที่เป็น
ศูนย์บัญชาการของนายกรัฐมนตรีไทย ,บ้านมนังคศิลา

นอกจากนี้ก็มีสถานที่ราชการอีกหลายแห่งที่คิดว่าน่าจะเป็น
บ้านของเจ้าขุนมูลนายเก่าแต่ไม่รู้จักชื่อเดิม ถ้าเข้าไปในสถาน
ที่นั้นๆแล้วก็จะให้ปรากฏเห็น บ้านหลังเก่าๆสไตล์ออกจีนปน
ยุโรปบ้าง หรือไม่ก็ยุโรปไปเลยบ้าง เช่น กระทรวงพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ ,สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ,กรมพัฒนาพลังงานทดแทน เป็นต้น

ถ้าสังเกตให้ดีจะสังเกตเห็นว่าสถานที่เหล่านี้จะมีลักษณะการวาง
แผนผังของอาคารเก่ากับอาคารใหม่ไม่ค่อยต่างกันเลย นั่นก็คือ
แต่ละที่จะวางผังให้ตึกใหม่โอบล้อมตึกเก่าซึ่งเป็นบ้านทรงโบราณ
เหมือนกันหมดทุกที่ เหมือนดังกับว่าสถาปนิก หรือคนไปออกแบบ
แผนผังในการสร้างตึกใหม่ในสถานที่ราชการแต่ละแห่งนั้น
เป็นคนๆเดียวกัน หรือไม่ก็นัดแนะกัน ว่าให้วางแผนผังในการก่อสร้าง
ตึกใหม่ให้ออกมาในแนวนี้

เข้าไปในสถานที่ราชการแต่ละที่ที่กล่าวมาก็จะปรากฏเห็นบ้าน
ทรงโบราณตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง โอบล้อมด้วยตึกใหม่
กว่าน้อยใหญ่อยู่ด้านหลัง ด้านข้างและด้านหน้า

ถ้าจะให้บอกว่าคนวางผังเป็นคนเดียวกัน หรือนัดแนะกันคงเป็นไป
ไม่ได้แน่ๆ แต่สาเหตุที่ทำให้ผังของตึกแต่ละที่เหมือนกัน
น่าจะมาจากการที่แต่ละที่ต้องการจะอนุรักษ์รักษาตึกเก่า
มากกว่า ซึ่งถ้าตีมูลค่าของบ้านทรงโบราณแต่ละที่แล้วก็คงไม่กี่
ร้อยบาทถ้าไม่นับรวมราคาที่ดิน แต่ถ้าให้ตีมูลค่าทางด้านจิตใจ
ก็ไม่รู้ว่ากี่มากน้อยบาทเหมือนกัน เพราะมันก็ขึ้นอยู่ที่ว่า
ใครเป็นคนมอง ใครเป็นคนตีราคา

ถ้าคนตีราคาไม่เห็นคุณค่าของตึก ก็คงทุบตึกแต่ละที่เพื่อสร้าง
ตึกใหม่ทับไปนานแล้ว แต่ปรากฏว่า คนตีราคาของตึกมองเห็น
คุณค่าของตึก จึงได้เห็นตึกใหม่น้อยใหญ่โอบล้อมบ้านทรง
โบราณอยู่ทุกที่

ในสถานะการณ์ที่ทุกตารางนิ้วของเขตเศรษฐกิจการเงินในกรุงเทพ
มีราคาแพงมาก รวมทั้งที่จอดรถของสถานที่ราชการแต่ละแห่ง
ก็อัตคัดขัดสน ไม่เพียงพอกับความต้องการในปัจจุบันนั้น
คุณค่าทางด้านจิตใจของบ้านทรงโบราณเหล่านี้ก็ไม่แน่
ว่าจะมีไปอีกนานได้แค่ไหน ถ้ายังคงมีอยู่ไปอีกนาน
ก็เดาได้เลยว่า สถานที่ทางราชการแห่งใหม่ของประเทศ
ต้องเกิดขึ้นแน่นอน หรือถ้าพูดให้ตรงประเด็นก็คือ
เมืองใหม่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน แล้วก็บอกได้เลยว่า
สุวรรณภูมิไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะปัญหาที่ดินต่ำนั้นเอง

แล้วก็ไม่รู้ว่าเมืองใหม่นครนายกดำเนินเรื่องไปถึงไหนแล้ว
เพราะไม่เห็นมีใครพูดถึงแม้กระทั้งในโครงการเม็กกะโปรเจ็ค
ก็ไม่มีรายชื่อโครงการนี้เลย ใครเดาสถานการณ์บ้านเมือง
หรือวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการสร้างเมืองใหม่แห่งไหน
ในประเทศได้ ก็อาจจะกลายเป็นเศรษฐีได้ภายในเวลาไม่กี่ปี
ผมว่ายังง่ายกว่าซื้อหวยตั้งเยอะนะ

เห็นประเทศเพื่อนบ้านย้ายเมืองหลวงใหม่ ก็ให้ใจหาย
หวังว่าคงไม่เกิดกรณีนี้แบบนี้ในประเทศไทย

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Time limit is exhausted. Please reload CAPTCHA.