“สภาสูง” คำนี้ไม่รู้ใครพาเรียก แล้วก็ไม่รู้มันอยู่สูงกว่าสภาล่างหรืออย่างไรก็ไม่รู้ หรือว่า
มันเป็นการเรียกจากลำดับขั้นของการพิจารณากฏหมาย อันความที่ความรู้ทางกฏหมาย
ของผมน้อยก็เลยไม่รู้ที่มา
แต่มันจะมาจากไหน ใครพาเรียก วันนี้ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก แต่สนใจตรงที่คนที่อยู่
ในสภานั้นซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งกันใหม่เร็วๆนี้
ส.ว.หลายๆคน ก็พยายามแอคทีฟตัวเอง ด้วยการสร้างเรื่องนั้นเรื่องนี้ขึ้นมาให้เป็นข่าว
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ สอง ปี สามปี ไม่เคยออกมาพูด ก็เข้าใจล่ะนะ ว่านักการเมืองก็ต้อง
มองถึงการเลือกตั้งคราวหน้าแต่ยังไงก็อย่าดูให้มันน่าเกลียดกันเกินไป
บางคนถึงกับกล้าออกมาพูดด้วยว่า จะเข้าไปเป็นประธานสภาสูง ทั้งๆที่ไม่เคยมองดู
ตัวเองด้วยซ้ำว่ามีคนเขาเกลียดเขาชอบตัวเองมากน้อยแค่ไหน
บางคนก็พยายามทำให้ประชาชนรู้สึกตามว่าสภาสูงนี้มีเกียรติมาก มากกว่าการเป็น
ผู้แทนธรรมดาซึ่งที่เห็นๆอยู่ก็ไม่รู้มันจะดีไปกว่ากันเท่าไหร่ ไม่เห็นจะเป็นปากเป็นเสียง
หรือรักษาผลประโยชน์อะไรให้กับคนในชาติเลย จะทำทีก็ต้องถึงหน้าเลือกตั้งแต่ละ
ครั้งก่อน
มี ส.ว. บางคนทำตัวน่าเกลียดมาก ปากบอกว่า ตัวเองเป็นตัวแทนของประชาชน ทำงาน
เพื่อประชาชน แต่เห็นแก่ตัวไล่แม่ค้า ประชาชนคนหาเช้ากินค่ำที่ไปขายของอยู่หน้าบ้าน
แถมให้เทศกิจ มายกของของประชาชนไม่ให้มาขายของหน้าบ้านตัวเองเหมือนหมู
เหมือนหมา คิดว่าเขามาจากบ้านนอก ไม่มีสิทธิเลือกใน กทม.
นี่เหรอ คนของประชาชนเขาทำกันอย่างนี้เหรอ นี่เหรอที่เขาเรียกกันว่าคนในสภาสูง
สื่อมวลชนคนไหนอยากรู้ หรืออยากทำข่าว ให้ประชาชนได้รู้
ก็ไปสืบเสาะหากันเอาเองแล้วกัน
เซ็น
หน้าหลัก