ทุกท่านน่าที่จะรู้จัก google และ microsoft ซึ่งทั้งสองค่ายเราสามารถ
เรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเจ้าของทั้งสอง
ที่ ก็ติดอันดับมหาเศรษฐีโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
การที่เราจะออกผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆมาสักอย่างแล้ว ทำการตลาดให้คนทั้งโลก
ได้รู้จักเพียงในไม่กี่วัน ถ้าลองให้คุณนึกหาวิธี ก็คงจะมืดแปดด้านเหมือนกัน
แต่ถ้าสำหรับยักษ์ใหญ่สองที่นี้แล้ว ก็ไม่ต้องห่วงเขาเลย แถมการตลาด
ของเขานั้นก็ไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายอะไรด้วย อาจจะเรียกได้ว่า
“การตลาดแบบฟรีๆ”
คุณอาจจะเคยได้ยินว่ามีคนแอบไปเห็นน่าตาใหม่ของ Longhorn
(CodeName ของ Windows Vista) เมื่อหลายปีก่อน แล้วข่าวก็ค่อยๆกระจาย
ออกไปเป็นวงกว้างเรื่อยๆ ในที่สุด ก็รู้กันทุกคน
คุณอาจจะเคยได้ยินข่าวว่าตอนนี้ microsoft กำลังซุ่มเงียบพัฒนา IE เพื่อ
ออกมาประทะ Firefox แถมยังมีอะไรเด็ดหลายๆอย่าง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เงียบ
ไปตั้งหลายปี และที่สุด ก็เป็นข่าวใหญ่ทันทีเมื่อ microsoft เปิดตัว IE7 beta
คุณอาจจะได้ยินข่าวว่า google ไปจดโดเมน gbowser.com แต่ google ก็ออกมา
ปฏิเสธว่าเขาไม่ทำโปรแกรมท่องเว็บแน่นอน แล้วข่าวก็หายไป
สักพักก็จะมีข่าวประมาณว่ามีคนแอบไปเห็น google กำลังทำระบบขายของแข่งกับ
ebay โดยไปตั้งชื่อว่า base.google.com แถมยังเห็นหน้าตาด้วยว่าเป็นอย่างไร
จนภายในเวลาเพียงไม่กี่วันก็เป็นข่าวใหญ่
แล้วก็มีอีกหลายร้อยข่าวที่มีลักษณะเป็นแบบนี้ ซึ่งยักษ์ใหญ่ทั้งสองที่ไม่ต้องลงทุน
อะไรมากเลย ข่าวก็ดัง ผลิตภัณฑ์ของเขาก็เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก คนก็ไปหา
มาใช้กัน
ลักษณะของข่าวแบบนี้ไม่รู้ว่ามีมหาวิทยาลัยไหนที่สอนกันหรือเปล่า
แล้วเขาเรียกว่าวิชาอะไรก็ไม่รู้ ถ้ายังไม่มีหรือมีแล้วแต่ยังไม่ชัดเจน
ใครจะลองไปทำวิทยานิพนธ์ก็น่าสนใจดีนะครับ ชื่อเรื่องน่าจะชื่อ
การข่าวลือ หรือ ไม่ก็ การตลาดแบบฟรีๆ ก็น่าจะเข้าท่าดี
ในบ้านเราการทำการตลาดแบบนี้ก็มีมานานแล้วเหมือนกัน โดยเฉพาะวงการดารา
ทั้งการโปรโมทดาราก่อนที่ละครจะลงจอ หรือข่าวนักร้อง ก่อนที่นักร้องจะออกอัลบั้ม
ก็สร้างข่าวลือกันไปต่างๆ นา นา คนก็ลือกันไป 8 บ้าน 10 บ้าน
คนผลิตนักร้อง หรือละคร ก็สบาย ไม่ต้องโปรโมทมากนัก
นอกจากนี้ก็มีอีกหลายวงการที่พยายามใช้การตลาดแบบนี้เช่น พาดหัวข่าวไว้เป็นปี สามปี
ว่าจะมีอันโน้นจะมีอันนี้ สิบปี ยี่สิบปีก็มี คนก็ลือ ก็ฮือฮากันไปอีกนาน ฝันหวานกันไปอีกนาน
ก็ดี เข้าท่าดี อยู่อย่างฝัน ดีกว่าไม่มีฝัน
มันเข้ากับเรื่องไหมเนี่ย
One comment